เครื่องวัดที่ใช้ในการเพาะเห็ดฟาง
เเนเนื่องจากเราไม่ใช่เห็ดการเพาะเห็ดฟางที่จะให้ได้ผลดีนั้น จะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แ่ก่
1. อาหาร เห็ดฟางเป็นเห็ดที่ต้องการสารอาหารที่เป็นส่วนประกอบหลักๆ ได้แก่โปรตีนและพวกแร่ธาต์ต่างๆี้
การสร้างอาหารให้กับเห็ดฟางให้เกิดมากท่สุด เพียงพอและเห็ดสามารถนำไปใช้ได้ง่าย ก็คือการนำวัสดุไม่ว่าจะเป็นฟางข้าว ทะลายปาล์ม กากมัน นำไปทำการหมักเพื่อให้เกิดสารอาหารเหล่่านี้
การหมักที่ได้ผลดีในปัจจุบันคือการใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมาช่วยในการย่อยสลาย ซึ่งปัจจุบันที่นำมาใช้ได้ผลดีคือจุลินทรีย์ อีเอ็ม(EM) เป็นจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงใช้งานได้ดี ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย มีขายทั่วไป
แต่เนื่องจากการหมักไม่สามารถที่เกิดอาหารสมบูรณ์จำนวนมากได้ ทางโพธุ์ทองจึงได้พัฒนาสารอาหารสำหรับเห็ดโยเฉพาะในที่นี้ก็คือโพธุ์ทองสูตร3
เนื่องจากการที่เห็ดทุกชนิด จะเจริญเติบโต บนวัสดุเพาะที่มีความเป็นกรดนิดๆหรือเป็นกลาง เราเรียกว่าค่า ph โดยทั่วไปเห็ดจะชอบวัสดุเพาะที่มีค่าph ุ6-7 อุปกรณืที่ใช้ในการวัดก็คือ ph meter นั่นเอง ปัจจุบันมีราคาปรมาณ2000บาท หรือ อาจจะใช้ กระดาษวัดค่าphก็ได้
วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
อบรมการเพาะเห็ดฟาง
อบรมการเพาะเห็ดฟาง
เนื่องจากเห็ดฟางเป็นเห็ดที่มีรสชาติอร่อย เป็นที่นิยม จึงมีความต้องการอย่างมาก จึงทำให้มีผู้สนใจที่จะทำการเพาะเห็ดฟางให้ได้ จึงได้มีการเปิดการอบรมเป็นที่แพร่หลาย ซึ่งมีทั้งเก็บเงินและฟรี แต่เนื่องจากมีผู้เข้าอบรมจำนวนมากหลังจากอบรมแล้วไม่สามรถนำไปทำด้วยตัวเองได้
ทางโพธุ์ทองจึงได้ทำการเปิดอบรมซึ่งจะแตกต่างจากที่อื่น โดยสาระสำคัญที่แตกต่างคือ
1. ทางโพธุ์ทองเปิดอบรมเฉพาะเห็ดฟางในโรงเรือนเท่านั้น
2. จะเป็นการเผยแพร่การเพาะเห็ดฟางวิธีใหม่เท่านั้น โดยวิธีนี้จะไม่มีการเลี้ยงรา แอคติโนมัยซิส หรือที่เรียกกันว่าราหมอก จึงไม่มีการอบไอน้ำเพื่อฆ่าราหมอก ไม่มีการตัดใย
3 .ใช้อาหารเสริมของทางโพธุ์ทองเท่านั้น ไม่ต้อใช้อาหารเสริมอื่นใดแม้แต่รำ
4. การอบรม เน้นการฝึกจริงๆ โดยเริ่มตั้งแต่ จากวัสดุเพาะเช่นเริ่มจากฟาง จากกากมัน หรือจากทะลายปาล์ม จนเป็นเห็ดที่ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ จนสามารถทำเป็นธุรกิจได้ด้วยตัวเอง
เนื่องจากเห็ดฟางเป็นเห็ดที่มีรสชาติอร่อย เป็นที่นิยม จึงมีความต้องการอย่างมาก จึงทำให้มีผู้สนใจที่จะทำการเพาะเห็ดฟางให้ได้ จึงได้มีการเปิดการอบรมเป็นที่แพร่หลาย ซึ่งมีทั้งเก็บเงินและฟรี แต่เนื่องจากมีผู้เข้าอบรมจำนวนมากหลังจากอบรมแล้วไม่สามรถนำไปทำด้วยตัวเองได้
ทางโพธุ์ทองจึงได้ทำการเปิดอบรมซึ่งจะแตกต่างจากที่อื่น โดยสาระสำคัญที่แตกต่างคือ
1. ทางโพธุ์ทองเปิดอบรมเฉพาะเห็ดฟางในโรงเรือนเท่านั้น
2. จะเป็นการเผยแพร่การเพาะเห็ดฟางวิธีใหม่เท่านั้น โดยวิธีนี้จะไม่มีการเลี้ยงรา แอคติโนมัยซิส หรือที่เรียกกันว่าราหมอก จึงไม่มีการอบไอน้ำเพื่อฆ่าราหมอก ไม่มีการตัดใย
3 .ใช้อาหารเสริมของทางโพธุ์ทองเท่านั้น ไม่ต้อใช้อาหารเสริมอื่นใดแม้แต่รำ
4. การอบรม เน้นการฝึกจริงๆ โดยเริ่มตั้งแต่ จากวัสดุเพาะเช่นเริ่มจากฟาง จากกากมัน หรือจากทะลายปาล์ม จนเป็นเห็ดที่ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ จนสามารถทำเป็นธุรกิจได้ด้วยตัวเอง
การเพาะเห็ดฟาง: เห็ดฟางโรงรือน
การเพาะเห็ดฟาง: เห็ดฟางโรงรือน: การทดลอง เพาะเห็ดฟางโรงเรือน โดย 1.การใช้วัสดุในทองถิ่น 2.ลดอาหารเสริม 3.ไม่เลี้ยงรา 4.ไม่อบไอน้ำ 5.ไม่ตัดใย ...
โรงเรือนเพาะห็ดฟาง
โรงเรือนเพาะเห็ดฟาง
เนื่องจากเราต้องการเพาะเห็ดฟางให้ได้ผลดี จึงจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าเห็ดฟางต้อการอะไรบ้างในการเจริญเติบโต ซึ่งได้แก่
.1.อุณหภูมิ(temperature) เป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้เห็ดฟางเจิญเติบโตได้ดี โรงเรือนจึงต้องสามารถควบคุม อุณหภูมิได้ดี ดังนั้นโรงเรือนที่ดีจะต้องมีความเป็นฉนวนจึงสามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิภายอกไม่ใหมีผลถึงอุณภูมิภายใน ไม่ว่าอุณภูมิภายนอกจะเป็นเช่นไร จะร้อนหรือหนาวเพียงใดก็จะไม่ส่งผลกระทบถึงอุณหภูมิภายในได้
2.ความชื้นสัมพัทธุ์(relative humidity) คือปริมาณน้ำที่อยู่ในอากาศ เป็นค่าอีกค่าที่ส่วนใหญ่เข้าใจกันผิดๆ เห็ดอาศัยน้ำในรูปของความชื้น ไม่สามารถรับน้ำได้โดยตรง โรงเรือนที่ถูกต้องจึงต้องสามารถกำหนดค่าความชื้นได้ สร้างและเก็บความชื้นได้กำหนดให้ตรงกับความต้องการของเห็ดฟาง
3.ออกซิเจน(oxygen)เห็ดเป็นสิงมีชีิตต้องอาศัยออกซิเจนในการเจริญเติบโต และคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ดังนั้นโรงเรือนที่ดี ต้องสามารถควบคุมให้มีอากาศใหม่เข้ามาแทนที่อากาศเก่าได้ โดยทำการเอาอากาศที่มีกาซออกซิเจนเข้ามาแทนที่อากาศเก่าที่มีกาซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากออกไป
4.แสง(light)การจริญเติบโตของ ของเห็ดต้องการแสงจำนวนหนึ่งเพือช่วยในการเจริญเติบโต โรงเรือนทีดีด้องมีแสงเข้าได้บ้าง
โรงเรือนที่นำมาใช้ในการเพาะเห็ดฟางโดยไม่ต้องเลี้ยงราหมอก อบไอน้ำ ตัดใย เป็นโรงเรือนที่เป็นฉนวนสามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิจากภายนอกได้ โดยได้ใช้วัสดุที่เป็นฉนวนและติดตั้งHeater ทำความร้อนที่มีระบบควบคุม(Controller) ทำให้สามารถควบคุมอุณภูมิไ้ด้ตามความต้องการ
ซึ่งความชื้นสัมพัทธุ์ก็เ่ช่นเดียวกัน
เนื่องจากเราต้องการเพาะเห็ดฟางให้ได้ผลดี จึงจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าเห็ดฟางต้อการอะไรบ้างในการเจริญเติบโต ซึ่งได้แก่
.1.อุณหภูมิ(temperature) เป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้เห็ดฟางเจิญเติบโตได้ดี โรงเรือนจึงต้องสามารถควบคุม อุณหภูมิได้ดี ดังนั้นโรงเรือนที่ดีจะต้องมีความเป็นฉนวนจึงสามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิภายอกไม่ใหมีผลถึงอุณภูมิภายใน ไม่ว่าอุณภูมิภายนอกจะเป็นเช่นไร จะร้อนหรือหนาวเพียงใดก็จะไม่ส่งผลกระทบถึงอุณหภูมิภายในได้
2.ความชื้นสัมพัทธุ์(relative humidity) คือปริมาณน้ำที่อยู่ในอากาศ เป็นค่าอีกค่าที่ส่วนใหญ่เข้าใจกันผิดๆ เห็ดอาศัยน้ำในรูปของความชื้น ไม่สามารถรับน้ำได้โดยตรง โรงเรือนที่ถูกต้องจึงต้องสามารถกำหนดค่าความชื้นได้ สร้างและเก็บความชื้นได้กำหนดให้ตรงกับความต้องการของเห็ดฟาง
3.ออกซิเจน(oxygen)เห็ดเป็นสิงมีชีิตต้องอาศัยออกซิเจนในการเจริญเติบโต และคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ดังนั้นโรงเรือนที่ดี ต้องสามารถควบคุมให้มีอากาศใหม่เข้ามาแทนที่อากาศเก่าได้ โดยทำการเอาอากาศที่มีกาซออกซิเจนเข้ามาแทนที่อากาศเก่าที่มีกาซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากออกไป
4.แสง(light)การจริญเติบโตของ ของเห็ดต้องการแสงจำนวนหนึ่งเพือช่วยในการเจริญเติบโต โรงเรือนทีดีด้องมีแสงเข้าได้บ้าง
โรงเรือนที่นำมาใช้ในการเพาะเห็ดฟางโดยไม่ต้องเลี้ยงราหมอก อบไอน้ำ ตัดใย เป็นโรงเรือนที่เป็นฉนวนสามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิจากภายนอกได้ โดยได้ใช้วัสดุที่เป็นฉนวนและติดตั้งHeater ทำความร้อนที่มีระบบควบคุม(Controller) ทำให้สามารถควบคุมอุณภูมิไ้ด้ตามความต้องการ
ซึ่งความชื้นสัมพัทธุ์ก็เ่ช่นเดียวกัน
วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
เห็ดฟางโรงรือน
การทดลองเพาะเห็ดฟางโรงเรือน โดย 1.การใช้วัสดุในทองถิ่น 2.ลดอาหารเสริม 3.ไม่เลี้ยงรา 4.ไม่อบไอน้ำ 5.ไม่ตัดใย
1.การใช้วัสดุในท้องถิ่น การเพาะเห็ด ปัจจุบันการเพาะเห็ดฟางได้ประสบปัญหาในการหาวัสดุที่จะนำมาเพาะ เช่นในภาคกลางโดยส่วนใหญ่นิยมใช้ทะลายปาล์มมาทำการเพาะด้วยวามเชื่อว่าการใช้ทะลายปาล์มในการเพาะเห็ดฟางใหผลผลิตสูงกว่าการใช้ฟางข้าว ทางแถบราชบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ได้ทำการเพาะด้วยปา์ล์มกันเป็นส่วนใหญ่ ทะลายปาล์มหาไม่ยากแต่เนื่องจากจังหวัดที่กล่าวมาไม่มีการปลูกปาล์ม โดยส่วนใหญ่นำมาจากทางใต้ ทำให้ต้นทุนในการขนส่งสูงกว่าราคาที่แท้จริงของทะลายปาล์มมาก ทั้งๆที่จังหวัดเหล่านี้มีวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรคือฟางข้าว แต่กลับไใ่เป็นที่นิยม
จึงได้มีการพัฒนาการเพาะเห็ดฟางด้วยฟางข้าวให้ได้ผลผลิตสูงหรือสูงกว่าการใช้ทะลายปาล์ม นอกจากนี้แล้วการใช้วัดุเพาะอย่างอื่นเช่นบางท้องถิ่น นิยมใช้กากมันซึ่งมีราคาสูง เราะกากมันสามรถนำไปเป็นอาหารสัตว์ได้
นอกจากนี้ได้ทำการวิจัยจนสามารถนำเอาหญ้าบางประเภทที่หาได้ง่าย าทำการเพาะเห็ดฟางได้ผลดี
2.ลดการใช้อาหารเสริมซึ่งเรียกกันว่าฮอร์โมนหรือชื่อเรียกต่างๆ ปัจจุบันเกษตรกรที่เพาะเห็ดฟางนิยมใช้อาหารเสริมจำนวนมาก ทำให้ต้นทุนสูงมากโดยมีความเชื่อว่าสามารถทำให้ผลผลิตสูงขึ้น โดยไม่ได้ทำการพิสูจน์ จากการทดลองสามารถลดการใช้อาหารเสริมได้จำนวนมาก และให้ผลผลิตสูงมีความแน่นอนสามารถวางแผนการจำหน่ายได้
3,4. ไม่เลี้ยงรา แอคติโนมัยซิสต์หรือเรียกกันว่าราหมอก เป็นการสร้างอาหารให้เห็ดฟางก่อนที่จะมีการโรยเชื้อเห็ดลงไป โดยการเอาวัสดุเพาะขึ้นไปไว้บนชั้นผสม เมื่อราแอคติดนมัยซิสต์เจริญเติบโตสร้างอาหารให้กับเห็ดฟางแล้วจึงทำการอบไอนำ้เพื่อทำการฆ่าราเสียเพราะกลัวไปแย่งอาหารเห็ด
ไ้ด้มีการพัฒนาจนไม่ต้องมีขั้นตอน3และ4ทำให้สามรถลดต้นทุนและเวลาที่ใช้ในการผลิตลงได้เยอะ
5 การตัดใย ขั้นตอนนี้เกษตรกรเพาะเห็ดส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นการทำให้เส้นใยยุบและเกิดเห็ดฟางซึ่งเป็ความเข้าใจผิด แท้ที่จริงเป็นการเพิ่มความื้นที่ผิวหน้าของวัสดุเพาะเท่านั้น
เมื่อเรามีวิธีการที่ไม่ให้วัสดุเพาะ แห้ง ดดยมีความชื้นในอากาศสม่ำเสมอหน้าวัสดุเพาะไม่แห้ง จึงไม่มีความจำเป็นต้องโชยน้ำเพิ่มความชื้น จึงลดขั้นตอนและระยะเวลาการเกิดดอกได้เร็วขึ้น
วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
การเพาะเห็ดฟางในโรงเรือน
การเพาะเห็ดฟางยุคใหม่
การเพาะเห็ดฟางทั่วๆไปมีวิธีการอยู่หลายประเภท ได้แก่ 1.การเพาะแบบกองเตี้ย 2.การเพาะแบบตะกร้า 3.การเพาะแบบในโรงเรือน
การเาะเห็ดแบบกองเตี้ยคงไม่กล่าวถึงในที่นี้ เพราะไม่สามารถควบคุมปัจจัยการออกดอกได้
แต่ในทีนี้จะเป็นการเพาะเห็ดฟางในโรงเรือนที่มีการควบคุม สิ่งแวดล้อมต่างๆให้เหมาะสมกับการเพาะเห็ด ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลัก
ในการที่เราจะทำการผลิตเห็ดฟางให้ได้ผลดีนั้น มีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
1.สายพันธุ์ที่ดี
2.อาหารสมบูรณ์
3.สิ่งแวดล้อมเหมาะสม ได้ก่
3.1 ออกซิเจนที่เพียงพอ
3.2 ความชื้นสัมพัทธุ์ที่เหมาะสม
3.3 อุณหภูมิที่หมาะสม
3.4 โรงเรือนที่สะอาด
1.สายพันธุ์ที่ดี ปัจจุบันเกษตรกรที่เพาะเห็ดฟางมีปัญหาในการจัดหาเชื้อเห็ดฟางที่ดี ทางโพธุ์ทองจึงได้ทำการคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี มีความแน่อน
2.อาหารที่สมบูรณ์ ทางเราได้พัฒนาอาหารสกัดชีวภาพโพธุํทอง เนื่ืองจากเราพบว่าวัสดุเพาะปัจจุบันให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับเห็ดฟางน้อยลง ทางเราได้พัฒนาจนสามรถนำฟางมาเพาะเห็ดฟางได้ผลดี อันเป็นการลดต้นทุนอาหารเสริมต่างๆได้เป็นอย่างดี
3.สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม การที่เห็ดหรือสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะเจริญเติบโตได้ดีต้องได้รับการเลี้ยงดูภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
ดังนั้น การเพาะเห็ดฟางก็เหมือนกัน ถ้าเราต้องการที่จะเพาะเห็ดเป็นธุรกิจเราจำเป็นที่จะต้องสร้างสิ่งแวดล้อมให้ตรงกับความต้องการของเห็ดให้ได้ นั่นก็คือโรงเรือนที่มีการควบคุมออกซิเจน อุณหภูมิ และวามชื้นสัมพัทธุ์ให้ได้
ข้อดีของการใช้โรงเรือนที่มีการควบคุม
1.เราจะได้เห็ดที่มีคุณภาพ สม่ำเสมอ
2.ไม่ว่าดินฟ้าอากาศจะเป็นเช่นไรไม่มีผลกระทบ
การเพาะเห็ดฟางทั่วๆไปมีวิธีการอยู่หลายประเภท ได้แก่ 1.การเพาะแบบกองเตี้ย 2.การเพาะแบบตะกร้า 3.การเพาะแบบในโรงเรือน
การเาะเห็ดแบบกองเตี้ยคงไม่กล่าวถึงในที่นี้ เพราะไม่สามารถควบคุมปัจจัยการออกดอกได้
แต่ในทีนี้จะเป็นการเพาะเห็ดฟางในโรงเรือนที่มีการควบคุม สิ่งแวดล้อมต่างๆให้เหมาะสมกับการเพาะเห็ด ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลัก
ในการที่เราจะทำการผลิตเห็ดฟางให้ได้ผลดีนั้น มีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
1.สายพันธุ์ที่ดี
2.อาหารสมบูรณ์
3.สิ่งแวดล้อมเหมาะสม ได้ก่
3.1 ออกซิเจนที่เพียงพอ
3.2 ความชื้นสัมพัทธุ์ที่เหมาะสม
3.3 อุณหภูมิที่หมาะสม
3.4 โรงเรือนที่สะอาด
1.สายพันธุ์ที่ดี ปัจจุบันเกษตรกรที่เพาะเห็ดฟางมีปัญหาในการจัดหาเชื้อเห็ดฟางที่ดี ทางโพธุ์ทองจึงได้ทำการคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี มีความแน่อน
2.อาหารที่สมบูรณ์ ทางเราได้พัฒนาอาหารสกัดชีวภาพโพธุํทอง เนื่ืองจากเราพบว่าวัสดุเพาะปัจจุบันให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับเห็ดฟางน้อยลง ทางเราได้พัฒนาจนสามรถนำฟางมาเพาะเห็ดฟางได้ผลดี อันเป็นการลดต้นทุนอาหารเสริมต่างๆได้เป็นอย่างดี
3.สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม การที่เห็ดหรือสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะเจริญเติบโตได้ดีต้องได้รับการเลี้ยงดูภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
ดังนั้น การเพาะเห็ดฟางก็เหมือนกัน ถ้าเราต้องการที่จะเพาะเห็ดเป็นธุรกิจเราจำเป็นที่จะต้องสร้างสิ่งแวดล้อมให้ตรงกับความต้องการของเห็ดให้ได้ นั่นก็คือโรงเรือนที่มีการควบคุมออกซิเจน อุณหภูมิ และวามชื้นสัมพัทธุ์ให้ได้
ข้อดีของการใช้โรงเรือนที่มีการควบคุม
1.เราจะได้เห็ดที่มีคุณภาพ สม่ำเสมอ
2.ไม่ว่าดินฟ้าอากาศจะเป็นเช่นไรไม่มีผลกระทบ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)